สุภาษิต

สุภาษิต สุภาษิต คือ สำนวนโวหารที่แสดงถึงความคิดสูง และสืบทอดมาแต่โบราณ แสดงถึง ความเจริญของวัฒนธรรมทางด้านภาษา ซึ่งแต่ละภูมิภาค แต่ละท้องถิ่น และแต่ละชุมชน กระทั่ง แต่ละเหล่าอาชีพก็มีสำนวนของใครของมันคล้ายกันบ้าง แตกต่างกันไปบ้าง ทั้งนี้เพราะที่มาไม่ เหมือนกันแต่โดยความหมายมักเทียบเคียงกันได้ แม้แต่ภาษาต่างวัฒนธรรมก็ยังมีส่วนคล้ายกัน ในทางอุปมา ตัวอย่างคำสุภาษิต - ความรู้แค่หางอึ่ง - หญิงก็ร้าย ชายก็เลว - งอนนักมักเกินงาม - หญิงสามผัว ชายสามโบสถ์ - ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด - ด้านได้อายอด - สวยแต่รูป จูบไม่หอม - เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัด - วัวเคยค้า ม้าเคยขี่ - ดินพอกหางหมู - งมเข็มในมหาสมุทร - ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ - ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ - ตกบันไดพลอยโจน - โง่มาก่อนฉลาด - ตาบอดสอดตาเห็น - โง่แล้วอวดฉลาด - ตีตนก่อนไข้ ร้องไห้ก่อนขู่ - จับปูใส่กระด้ง - ตัดน้ำไม่ขาด ตัดญาติไม่ไหว - จงเอาเยี่ยงกา แต่อย่าเอาอย่างกา - ตาดีก็ได้ ตาร้ายก็เสีย - เจอไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น - ถ่มน้ำลายรดฟ้า - ฉลาดแกมโกง - น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า - ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ - ชั่วเจ็ดที่ ดีเจ็ดหน กระต่ายตื่นตูม หมายถึง เมื่อได้ยินได้ฟังข่าวร้ายใดๆ ก็ตื่นตกใจเพราะเชื่อทันที โดยไม่พิจารณาเสียก่อนว่าเป็นจริงหรือไม่ ถ้าเชื่อโดยไม่ได้พิจารณาให้ถ่องแท้ อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ กิ้งก่าได้ทอง หมายถึง คนที่ไม่มีความสำคัญ ไม่เคยมีสมบัติและไม่มีความคิดด้วย เมื่อได้รับลาภยศแม้เพียงเล็กน้อย ก็คิดว่าตนมีความสำคัญเหนือผู้อื่น เกิดความเห่อเหิมลืมตัวแสดงความเย่อหยิ่งจองหองวางท่าใหญ่โต คนเช่นนี้ ย่อมเป็นที่รังเกียจของคนเป็นอันมาก ขี่ช้างจับตั๊กแตน หมายถึง งานที่จะทำงานเป็นงานเล็กน้อย แต่ทำราวกับเป็นงานใหญ่โต จัดหาผู้คน เครื่องมือ เครื่องใช้มากมาย โดยไม่จำเป็นสำหรับงานนั้น ใช้เป็นคำตำหนิผู้ที่เตรียมการใหญ่โตกว่างานที่จะต้องทำ ทำให้เสียเงินทองและเวลามากไปเปล่าๆ ผลที่ได้จะไม่คุ้มกับที่เสียไป เข็นครกขึ้นภูเขา หมายถึง การทำงานที่ยากลำบาก จะต้องมีความบากบั่น พากเพียร อุตสาหะ มีมานะอดทน ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย และ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น งานนั้นจึงจะสำเร็จได้ จับปลาสองมือ หมายถึง ผู้ที่ไม่ตัดสินใจให้แน่นอนว่าควรจะทำสิ่งใด เห็นไปว่าสิ่งโน้นก็ดี สิ่งนี้ก็ดี เลยทำหมดทุกอย่าง ทำให้ต้องแบ่งความคิด เวลา และกำลังกาย สำหรับงานเหล่านั้น เป็นเหตุให้งานแต่ละอย่างไม่ได้รับผลดีเท่าที่ควรจะได้ ในที่สุดเขาจะทำงานไม่ได้ดีเลยแม้แต่สักอย่างเดียว จับงูข้างหาง หมายถึง การกระทำอะไรโดยไม่พิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน ว่าควรไม่ควรอย่างไร มีคุณหรือมีโทษอย่างไร อาจได้รับโทษภัยจากการกระทำนั้นเหมือนการจับงูข้างหาง งูจะฉกกัดเอาไว้ ฆ่าช้างเอางา หมายถึง การลงทุนลงแรงมากมาย แต่ได้ประโยชน์นิดเดียวไม่คุ้มค่า หรือหมายถึง การทำลายสิ่งที่ใหญ่โตเพื่อหวังได้สิ่งเล็กน้อยไปเป็นประโยชน์ของตน โดยไม่คิดว่าการกระทำเช่นนั้นสมควรหรือไม่ ชี้โพรงให้กระรอก หมายถึง ผู้ที่ชอบทำอะไรอยู่เป็นนิสัยแล้ว เช่น ชอบเที่ยวถ้ามีผู้บอกว่าที่นั่นที่นี่น่าเที่ยว ก็จะไป หรือผู้ที่เป็นขโมยถ้ามีผู้บอกว่า บ้านนั้นบ้านนี้มีทรัพย์สินเงินทองมาก ก็จะหาทางเข้าขโมย เช่นนี้ เรียกว่า ชี้โพรงให้กระรอก ดินพอกหางหมู หมายถึง การทำสิ่งใดก็ตาม ถ้ามัวแต่ผัดวันประกันพรุ่ง เพราะความเกียจคร้าน ไม่ทำให้สำเร็จโดยเร็ว ปล่อยให้คั่งค้างทับถมมากเข้า งานจะเพิ่มพูนมากขึ้นทุกที ทำเท่าไรไม่มีเสร็จ หรือหมายถึง หนี้สินไปก่อขึ้นไว้ทีละเล็กละน้อยจนมากมาย ก็เรียกว่าเป็นดินพอกหางหมูเหมือนกัน ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิด หมายถึง การทำความผิดใหญ่หลวง ย่อมไม่อาจปกปิดได้ ต้องมีผู้รู้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ตาบอดได้แว่น หมายถึง ได้สิ่งของที่ตนเองนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หมายถึง การเสียทรัพย์ไปในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์คุ้มกับทรัพย์ที่ต้องเสียไป เช่นการทุ่มเทข้าวของเงินทองเพื่อจัดงานใดงานหนึ่งให้ใหญ่โตเกินเหตุ เป็นการสิ้นเปลืองโดยไม่ได้รับผลคุ้มค่า และถ้าทำเกินฐานะก็จะเป็นเหตุให้มีหนี้สิน ให้เป็นที่ตำหนิติฉินอีกด้วย ถ่มน้ำลายรดฟ้า หมายถึง คนต่ำที่คิดล่วงเกินคนสูง หรือคนชั่วที่ คิดทำลายคนดี ตนเองนั่นแหละจะได้รับผลร้ายจาก จากกระทำของตน หมากัดอย่ากัดตอบ หมายถึง คนชั่ว คนชั้นต่ำ หรือพวกอันธพาล คิดร้ายหรือประทุษร้ายเราอย่างใดอย่าทำตอบแต่ควรหลีกเลี่ยงไปเสีย หนีเสือปะจระเข้ หมายถึง หนีภัยอันตรายอย่างหนึ่งกลับไปพบกับภัยอันตรายอีกอย่างหนึ่ง มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก หมายถึง คนพูดไม่อยู่กับร่องกับรอยเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ที่เรียกว่าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เป็นผู้ที่คนดูถูก ใครถูกกล่าวว่าเป็นมะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก จะไม่มีใครเชื่อถือ ฝนทั่งให้เป็นเข็ม หมายถึง คนที่จะทำงานใดๆ แม้ว่าจะเป็นงานที่ยากลำบากเพียงใดก็ตาม ถ้ามีความมานะพากเพียร ไม่ท้อถอย ไม่ละทิ้งเสีย ครึ่งๆ กลางๆ งานนั้นก็จะสำเร็จได พุ่งหอกเข้ารก หมายถึง การกระทำอะไรลงไปโดยไม่พิจารณาให้เห็นชัดเสียก่อนว่าจะเกิดผลติดตามมาอย่างไร มักจะเสียประโยชน์ของตนเอง ปิดทองหลังพระ หมายถึง การทำงานอะไรก็ตามที่เป็นความดี โดยไม่ใคร่มีผู้รู้เห็นแม้จะเป็นการทำความดีที่มีความสำคัญ และมีประโยชน์มาก แต่เมื่อไม่มีใครรู้ตัวผู้กระทำการกระทำของผู้นั้นท่านเปรียบเหมือนกับการปิดทองหลังพระ คือแม้จะไม่มีผู้รู้เห็นตัวคนทำ แต่ความดีก็เป็นความดีที่สมบูรณ์ เหมือนความสมบูรณ์ขององค์พระที่มีทองปิดทั้งข้างหน้าข้างหลัง วัวหายล้อมคอก หมายถึง เมื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดหายไป หรือเกิดเรื่องเดือดร้อนอะไรขึ้นแล้ว จึงคิดหาวิธีป้องกันในภายหลัง ย่อมไม่เกิดประโยชน์ ไม่ทำให้สิ่งที่หายไปแล้วกลับคืนมาได้ เปรียบเหมือนมีวัว แต่ไม่ทำคอกล้อมวัวไว้ ครั้นเมื่อวัวหายไปแล้ว จึงทำคอกขึ้น วัวก็หายเสียแล้ว มือไม่พายเอาตีนราน้ำ หมายถึง บางคนไม่ช่วยทำกิจการอย่างหนึ่งอย่างใดให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีโดยเร็ว แต่ยังขัดขวางถ่วงให้ล่าช้า สอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ หมายถึง สอนผู้ที่รู้ดีอยู่แล้ว ย่อมไม่เกิดประโยชน์อันใด ทั้งอาจเป็นที่ขบขันของผู้รู้เห็นอีกด้วย น้ำลดตอผุด หมายถึง คนที่กำลังมีอำนาจวาสนานั้นแม้จะทำความผิดความชั่วอย่างไร ก็ไม่มีผู้กล้ายกความผิดความชั่วนั้นขึ้น ความผิดความชั่วทั้งหมดจะถูกอำนาจวาสนาปกปิดไว้ เหมือนน้ำที่เต็มฝั่งปกปิดตอทั้งหลายจากสายตา เมื่อคนผู้นั้นหมดอำนาจวาสนา ความผิดความชั่วที่ทำไว้ก็จะถูกยกขึ้นทั้งหมด เหมือนเมื่อน้ำลดตอใต้น้ำทั้งเล็กใหญ่จะผุดขึ้นให้เป็นระเกะระกะ

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

ประวัติส่วนตั๊วตัว

นางสาวเมติยา   ลี้เทียน    ชื่อเล่นมิ้นท์
เกิดวันที่  29  เมษายน   พ.ศ.2535    อายุ  19  ปี
บ้านเลขที่ 18  หมู่ 7 ตำบลอ่างทอง   อำเภอเมือง   จังหวัดราชบุรี   70000
รหัสนักศึกษา 544101153
คณะมุนษยศาสตร์และสังคมศาสตร์     เอกภาษาไทย